แผลกดทับ bed sore คือ การได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออันเกิดจากแรงกดทับที่ผิวหนังเป็นเวลานาน โดยแผลกดทับมักเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่หุ้มกระดูก ผู้ที่ประสบปัญหาสุขภาพอันส่งผลต่อการเคลื่อนไหวหรือการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้ต้องนอนอยู่บนเตียงหรือนั่งรถเข็นตลอดเวลาเสี่ยงเกิดแผลกดทับได้ ยังรวมไปถึงผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวร่างกายและผิวหนังที่เสื่อมลงตามอายุ แผลกดทับเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่แล้วรักษาให้หายได้ แต่ผู้ป่วยบางรายอาจรักษาให้หายขาดไม่ได้
อาการของแผลกดทับคือ
แต่ละขั้นตอนของแผลกดทับจะมีอาการแตกต่างกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระยะเวลา โดยผู้ป่วยจะเกิดอาการหลายอย่าง ได้แก่ สีหรือลักษณะผิวหนังเกิดความผิดปกติ มีอาการบวม มีหนองออกมา เกิดอาการอุ่นหรือเย็นตรงผิวหนังที่เกิดแผลกดทับ และมักกดแล้วเจ็บบริเวณที่เป็นแผลกดทับ ทั้งนี้ อาการของแผลกดทับจะรุนแรงขึ้นตามระยะต่าง ๆ ดังนี้ การเปลี่ยนสีผิว อาการปวดในพื้นที่ได้รับผลกระทบ การติดเชื้อ ผิวเปิดผิวที่ไม่สว่างขึ้นเมื่อสัมผัส ผิวที่นุ่มหรือกระชับกว่าผิวโดยรอบเป็นต้น
บริเวณที่เกิดแผลกดทับบ่อย
เช่น หลัง ส้นเท้า ข้อเท้า สะโพก หรือกระดูกก้นกบ
ระยะและอาการของแผลกดทับ
- ระยะที่ 1 แผลกดทับระยะนี้จะไม่เปิดออก มีการเปลี่ยนสีของผิวหนังที่ชัดเจน ผู้ที่มีผิวขาวอาจเกิดรอยแดงส่วนผู้ที่มีผิวเข้มอาจเกิดสีเขียวอมม่วง ลักษณะอุ่น นุ่มหรือแข็ง ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บและระคายเคือง ผิวหนังบริเวณแผล
- ระยะที่ 2 แผลกดทับระยะนี้เป็นแผลเปิดหรือมีแผลตุ่มน้ำพอง เนื่องจากหนังกำพร้าบางส่วนและหนังแท้ถูกทำลาย ทำให้ผิวหนังหลุดลอก จะเจ็บที่แผลมากขึ้น
- ระยะที่ 3 แผลจะมีลักษณะเป็นโพรงลึก ทำให้เห็นไขมันที่แผล เนื่องจากผิวหนังทั้งหมดหลุดออกไป รวมทั้งเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิวหนังถูกทำลาย
- ระยะที่ 4 แผลกดทับระยะนี้จัดว่ามีความรุนแรงที่สุด เพราะผิวหนังทั้งหมดถูกทำลายอย่างรุนแรง รวมทั้งเนื้อเยื่อที่อยู่ล้อมรอบเริ่มตาย กล้ามเนื้อและกระดูกที่อยู่ลึกลงไปอาจถูกทำลายด้วย
บางครั้งแพทย์ต้องถ่ายภาพเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลการผ่าตัดของพื้นที่ เพื่อตรวจสอบแผลซึ่งมีเศษสีที่เรียกว่าตม (สีเหลือง, สีแทน, สีเขียวหรือสีน้ำตาล) ซึ่งทำให้การประเมินเต็มรูปแบบยาก
สาเหตุของการเกิดแผลกดทับ
แผลกดทับเกิดจากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายได้รับแรงกดเป็นเวลานาน อันส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณดังกล่าวไม่เพียงพอ หากเลือดไม่ไปเลี้ยงอวัยวะที่ถูกดทับ เนื้อเยื่อของอวัยวะดังกล่าวจะถูกทำลายและเริ่มตาย เนื่องจากเลือดจะลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นและช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวหนังไม่ได้รับเซลล์เม็ดเลือดขาวสำหรับต้านทานเชื้อโรค ทำให้เกิดการติดเชื้อที่แผลกดทับได้ ความชื้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังเช่นปัสสาวะและอุจจาระซึ่งเป็นผลมาจากสุขอนามัยที่ไม่ดีก็ยังสามารถนำไปสู่การก่อให้เกิดแผลกดทับและสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอก็ล้วนมีผลต่อการเกิดแผลกดทับเช่นกัน
การวินิฉัยและการรักษา
การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะและสภาพของแผล แพทย์ที่รักษาแผลกดทับ อาจประเมินแผล ขนาด และความลึกของแผล ประเภทของเนื้อเยื่อที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผล เช่น ผิวหนังกล้ามเนื้อหรือกระดูก สีของผิวหนังที่ได้รับผลกระทบจากแผลปริมาณการตายของเนื้อเยื่อที่เกิดจากแผลกดทับ การติดเชื้อ กลิ่น และมีเลือดออกหรือไม่อาจมีการเก็บตัวอย่างของเหลวและเนื้อเยื่อในแผลเพื่อตรวจหาการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเซลมะเร็ง
การดูแลรักษาแผล
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเช่นการเปลี่ยนตำแหน่งบ่อยครั้งและการใช้เบาะรองนั่งแบบปิดพิเศษเช่นเดียวกับการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การรักษาการติดเชื้อใดที่มีอยู่
ยา
การรักษาของผู้ป่วยในระยะที่1และระยะที่2การติดเชื้อที่มีอยู่ยาต้านแบคทีเรียอาจรักษาเชื้อได้คุณอาจได้รับยาเพื่อบรรเทาหรือลดอาการไม่สบายกระบวนการในการกำจัดเนื้อเยื่อที่ตายหรือติดเชื้อที่เรียกว่า debridement อาจแนะนำโดยแพทย์การทำให้แผลสะอาดแห้งและปราศจากสิ่งระคายเคืองเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการรักษา การลดความดัน การเปลี่ยนตำแหน่งบ่อยครั้งเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาแผลเพื่อลดการกดทับ ส่วนในระยะที่3และ4 การรักษาแผลอาจต้องใช้ การผ่าตัด debridement และการรักษาแผลกดทับ
แนวโน้มระยะยาว
กระบวนการบำบัดรักษาของคุณจะขึ้นอยู่กับระยะของแผล ยิ่งทำการวินิจฉัยเร็วเท่าไหร่คุณก็จะสามารถเริ่มรักษาและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพอาจให้คุณเปลี่ยนอาหารของคุณ ระยะต่อมาก็จะต้องการการรักษา ที่เข้มข้นขึ้นและใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นแผลกดทับ
ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงหรือต้องอยู่บนรถเข็นเป็นเวลานานๆ ผู้ที่มีผิวบอบบาง
อาการนี้สามารถรักษาได้ แต่แผลที่ลึกเรื้อรังอาจรักษาได้ยาก ซึ่งแนวโน้มการรักษาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมถึงเงื่อนไขทางการแพทย์พื้นฐานด้วยเช่นเดียวกัน
นี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/bed-sores/symptoms-causes/syc-20355893
https://www.medicalnewstoday.com/articles/173972
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/pressure-sores-4-stages
https://www.nhs.uk/conditions/pressure-sores/
No Responses